พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
องค์บิดาของทหารเรือไทย
พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ มี พระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ เป็นพระราชโอรสลำดับที่ ๒๘ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๒๓ พระมารดาคือเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาของเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) สมุหพระกลาโหมในราชการที่ ๕ ทรงเป็นพระราชโอรสรุ่นแรกที่เสด็จไปศึกษาวิชาการทหารเรือ ณ ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีกองทัพเรือแข็งแกร่งที่สุดในยุคนั้น
![](https://navy24.org/wp-content/uploads/2017/12/DD33BFD2-FCEE-498A-8006-BF94D386F15D-768x1024.jpeg)
เนื่องด้วยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ ๕ พระบรมชนกนาถ เป็นยุคที่ประเทศมหาอำนาจตะวันตก เข้าสู่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมเต็มรูปแบบ มีความต้องการแรงงานและทรัพยากรธรรมชาติจำนวนมหาศาล จึงพากันออกแสวงหาอาณานิคมมาทางเอเชียด้วยเห็นว่ามีแรงงานที่อ่อนแอและง่ายต่อการปกครอง ทั้งยังมีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ด้วยพระวิจารณญาณและพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระราชวิเทโศบายสำคัญในการรักษาเอกราชของชาติ ส่งผลให้ประเทศสยามในเวลานั้นรอดพ้นจากลัทธิล่าอาณานิคม หนึ่งในพระราชวิเทโศบายนั้นคือการเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศมหาอำนาจโดยการส่งพระราชโอรสหลายพระองค์ไปศึกษาในยุโรป
![](https://navy24.org/wp-content/uploads/2017/12/DE40CFCE-622C-46E2-9582-F6E795140EDE.jpeg)
เสด็จในกรมฯ นับเป็นพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์แรกของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ได้เสด็จไปทรงศึกษาเกี่ยวกับวิชาการทหารเรือยังต่างประเทศ ทั้งนี้เพราะพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ ทรงมีพระราชดำริ “….กิจการทหารเรือไทยเท่าที่ได้เป็นอยู่ในขณะนั้น ต้องอาศัยชาวต่างประเทศเป็นผู้บังคับบัญชาการเรือ และป้อม อยู่เป็นอันมากจึงไม่สู้จะมีความมั่นคงเท่าใดนัก ดังจะเห็นได้จากเหตุกาณ์ ร.ศ.๑๑๒ (พ.ศ.๒๔๖๓) เป็นตัวอย่างอันฉะนั้น จึงนับว่าเป็นพระราชดำริที่เหมาะสม ในการส่งพระราชโอรสไปทรงศึกษาวิชาการทหารเรือในครั้งนี้…”
![](https://navy24.org/wp-content/uploads/2017/10/13516441_1235077386504876_6829429888252079437_n.jpg)
ภายหลังจากที่ เสด็จในกรมฯ ทรงสำเร็จการศึกษา และเข้ารับราชการทหารเรือแล้ว พระองค์ทรงเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงเห็นความสำคัญและโปรดเกล้าฯ พระราชทาน พระราชวังเดิม ให้เป็นที่ตั้งของโรงเรียนนายเรือ พระองค์ได้แก้ไขปรับปรุงระเบียบการในโรงเรียนนายเรือให้ทันสมัย เพื่อให้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายเรือเป็นนายเรือที่มีความรู้ ความสามารถ เทียบได้กับ นายทหารเรือต่างประเทศ
![](https://navy24.org/wp-content/uploads/2017/12/258DAD36-2ED9-4FFF-9C15-357C3E2F7CE7.jpeg)
พระองค์ทรงริเริ่มวางรากฐานกิจการทหารเรือ ทรงจัดทำแผนการทหารเรือ แผนการทัพเรือ ทรงประสิทธิ์ประสาทวิชาการทหารเรือ ทรงจัดการศึกษาทางยุทธศาสตร์ยุทธวิถีและกระบวนรบทำให้กองทัพเรือมีความ เข้มแข็ง มั่นคง มีประสิทธิภาพ และเจริญก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์มาจนทุกวันนี้
พระองค์ทรงกอปรด้วยพระคุณลักษณะของทหารเรือทุกประการ ทรงปลูกฝังวิญญาณทหารเรือไว้ในส่วนลึกของหัวใจให้ทหารเรือไทยทุกคนเป็นทหารเรืออย่างแท้จริง พระจริยวัตรที่ทรงแสดงออกจากน้ำพระทัยมิใช่อย่างข้ากับเจ้าหรือบ่าวกับนาย หากแต่เสมือนบิดากับบุตรเป็นที่ซาบซึ้งตรึงใจและเทิดทูนบูชาของทหารเรือทั้งหลายยิ่งนัก…ทหารเรือทั้งหลายจึงพากันเทิดทูน และเคารพรักพระองค์อย่างเป็นที่สุด
![](https://navy24.org/wp-content/uploads/2017/12/EC64722C-AD8C-4877-A891-7CF983543DB3.jpeg)
ในกาลต่อมา กองทัพเรือได้กำหนดให้วันที่ ๑๙ พฤษภาคมของทุกปี อันเป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระองค์ เป็น “วันอาภากร” พร้อมกับเทิดพระเกียรติพระราชสมัญญานาม พระองค์ท่านเป็น “องค์บิดาของกองทัพเรือไทย” เมื่อวันที่ ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๓๖ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกพระกรุณาธิคุณของ พระองค์ท่านที่ได้ทรงพัฒนากิจการทหารเรือให้มีความเข้มแข็ง มั่นคง มีความเจริญก้าวหน้าเป็นที่ประจักษ์ มาตราบเท่าทุกวันนี้ และเพื่อเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ท่าน กองทัพเรือได้จัดงานเนื่องในวันสำคัญนี้ เป็นประจำทุกปี พร้อมจัดกิจกรรมบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตามสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพเรือ.
อ้างอิง ๑. พลเรือตรี กรีฑา พรรธนะแพทย์. “ทำไมทหารเรือจึงรักกรมหลวงชุมพรมาก” นาวิกศาสตร์. ปีที่ ๙๕ เล่มที่ ๑๒. ธันวาคม ๒๕๕๕.
๒. ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. พระอุปนิสัยและพระจริยวัตร ในกรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์. ศิลปวัฒนธรรม. ฉบับธันวาคม 2555
#องค์บิดาของทหารเรือไทย #เสด็จเตี่ย #กรมหลวงชุมพร #นาวิกศาสตร์ #19ธันวาคม #เสด็จในกรม